พรมเป็นสิ่งตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยเพิ่มความสวยงามและบรรยากาศให้กับห้อง แต่พรมก็เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง สิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้ ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดพรมอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดพรมอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้พรมสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ และคงความสวยงามไว้ได้นาน เคล็ดลับในการทำความสะอาดพรมอย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้
1. ดูดฝุ่นพรมเป็นประจำ
การดูดฝุ่นพรมเป็นประจำเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำความสะอาดพรม เนื่องจากช่วยขจัดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และเศษผงต่างๆ ที่เกาะติดอยู่ตามพื้นผิวของพรม โดยเฉพาะในส่วนที่เข้าถึงยาก เช่น ใต้พรม มุมห้อง และขอบพรม
ควรดูดฝุ่นพรมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นหากมีการใช้งานพรมอย่างหนัก เช่น มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงในบ้าน
2. เช็ดทำความสะอาดพรม
หากพรมมีคราบสกปรกหรือรอยเปื้อน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด โดยเช็ดจากด้านบนลงด้านล่าง เริ่มจากบริเวณที่สกปรกที่สุดก่อน จากนั้นจึงเช็ดบริเวณอื่นๆ ตามลำดับ
หากมีคราบสกปรกฝังแน่น ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดพรมที่เหมาะสมกับประเภทของพรม ทดสอบน้ำยาทำความสะอาดก่อนใช้บนบริเวณที่มองไม่เห็น เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาทำความสะอาดจะไม่ทำให้พรมเสียหาย
3. ทำความสะอาดพรมอย่างละเอียดปีละครั้ง
หากพรมมีการใช้งานอย่างหนักหรือมีคราบสกปรกฝังแน่น ให้ทำความสะอาดพรมอย่างละเอียดปีละครั้ง โดยอาจจ้างร้านซักพรมมืออาชีพหรือทำความสะอาดเองที่บ้าน
หากต้องการทำความสะอาดพรมเองที่บ้าน ควรใช้เครื่องซักพรมแบบพิเศษที่มีถังซักและถังปั่นแยกกัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาทำความสะอาดและเศษผงต่างๆ ไหลย้อนกลับเข้าไปในพรม
4. ตากพรมให้แห้งสนิท
หลังจากทำความสะอาดพรมแล้ว ให้นำพรมไปตากในที่ร่มให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้พรมขึ้นรา
เคล็ดลับในการทำความสะอาดพรมอย่างปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียหรือสารฟอกขาว เพราะอาจทำให้พรมเสียหายได้
- ไม่ควรใช้เครื่องซักผ้าทั่วไปซักพรม เพราะอาจทำให้พรมเสียหายได้
- หากพรมมีคราบสกปรกจากน้ำมันหรือไขมัน ให้ใช้แป้งข้าวโพดหรือเบกกิ้งโซดาโรยบนคราบสกปรกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดออก
การทำความสะอาดพรมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พรมสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ และคงความสวยงามไว้ได้นาน ต้อนรับปีใหม่อย่างสดใหม่ด้วยพรมที่สะอาดและน่ามอง
Tags: ทํา ความ สะอาด พรม